ระบบประกันคุณภาพการวิจัย
ระบบประกันคุณภาพการวิจัย (STC-RQA : Siam Technology college Research Quality Assurance) ระบบประกันคุณภาพการวิจัย (STC-RQA : Siam Technology college Research Quality Assurance) กำหนดขึ้นเพื่อแสดงรายละเอียดของระบบประกันคุณภาพการวิจัยมีองค์ประกอบที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของงานวิจัยทั้งในลักษณะของแต่ละโครงการหรือชุดโครงการ เพื่อให้นักวิจัยและ/หรือหัวหน้าโครงการวิจัยต้องคำนึงถึงโดยมีองค์กรทำหน้าที่กำกับดูแลงานวิจัยตามภารกิจและพันธกิจ องค์ประกอบของระบบประกันคุณภาพการวิจัย ((STC-RQA) ประกอบด้วยปัจจัยคุณภาพพื้นฐาน (ข้อ ก-ง) 14 ปัจจัย และปัจจัยคุณภาพเพื่อความก้าวหน้า (ข้อ จ-ฉ) อีก 3 ปัจจัย รวมทั้งหมด 17 ปัจจัยคุณภาพ ดังนี้
ก. บริบท (Context) สามารถแสดงให้เห็นถึงสถานภาพของงานวิจัย ทิศทาง และเป้าหมายในภาพรวมเพื่อให้เกิดงานวิจัยที่มีคุณภาพและมีคุณค่า ประกอบด้วยปัจจัยคุณภาพ คือ
1.ทิศทางและเป้าหมายการวิจัย
2.แผนกลยุทธ์การวิจัยและการวางแผนงานวิจัยที่สอดรับกับแผนกลยุทธ์
ข. ทรัพยากรและการบริหารจัดการทรัพยากร (Resource and Resource Management) สามารถแสดงให้เห็นถึงการกำกับ สนับสนุน ส่งเสริมให้มีทรัพยากรที่จำเป็นและเพียงพอต่อการวิจัย รวมถึงการคงไว้ซึ่งทรัพยากร การพัฒนาและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง ประกอบด้วยปัจจัยคุณภาพคือ
3.บุคลากรด้านการวิจัย
4.เครื่องมือและอุปกรณ์การวิจัย
5.งบประมาณและการเงิน
6.ข้อมูลและสารสนเทศเพื่องานวิจัย
ค. กระบวนการในการบริหารจัดการงานวิจัย (Research Management Process) สามารถแสดงให้เห็นถึงกระบวนการในการบริหารจัดการให้งานวิจัยดำเนินไปเป็นลำดับอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิผล และมีประสิทธิภาพตามเงื่อนไขมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยนั้น ๆ โดยประกอบด้วยปัจจัยคุณภาพ คือ
7.การบริหารจัดการและการดำเนินการวิจัย
8.จริยธรรมการวิจัยในคนหรือที่เกี่ยวข้องกับคน และจริยธรรมการวิจัยที่ใช้สัตว์ทดลองในการวิจัย
9.จรรยาบรรณการวิจัย
10.ความเชื่อมโยงการวิจัยกับกระบวนการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและผลสัมฤทธิ์ใน การสร้างบัณฑิตควบคู่ไปกับงานวิจัย 11.การประเมินผลผลิตระหว่างกระบวนการวิจัย
12.การตรวจสอบคุณภาพงานวิจัยที่เสร็จสมบูรณ์
ง. ผลผลิต (Output)
13.การจัดการความรู้/องค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัย
14.การดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญา
จ. ความร่วมมือและการประสานการดำเนินงานกับนักวิชาการ/กลุ่มวิจัยอื่น ๆ (Cooperation and Networking) 15.การดำเนินการวิจัยแบบบูรณาการ
16.ความร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยอื่น ๆ ทั้งภายในมหาวิทยาลัย ภายในประเทศและ กับต่างประเทศ
ฉ. โครงสร้างพื้นฐานการวิจัยตามมาตรฐานระดับนานาชาติ (International Standardization)
17.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการวิจัยให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับนานาชาติ
คุณภาพการวิจัยตามโครงสร้างดังกล่าวสามารถใช้ได้กับทั้งชุดโครงการวิจัยหรือโครงการวิจัยเดี่ยว ซึ่งบางปัจจัยอาจประยุกต์ใช้ในรายละเอียดที่แตกต่างกันในแต่ละระดับได้ มาตรฐานการวิจัยนี้ใช้ในการพิจารณาประเมินในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปการประเมินมาตรฐานการวิจัยอาจจะต้องเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับสภาพความต้องการของผู้วิจัย ผู้ใช้ผลงานวิจัย ผู้สนับสนุนการวิจัย รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ